Keith Richards คีธ ริชาร์ดส์ ยอดมือกีตาร์รุ่นเดอะวัยเก๋า ซาตานแห่งวง The Rolling Stones
ยอดมือกีตาร์รุ่นเดอะวัยเก๋า ซาตานแห่งวง The Rolling Stones วงร็อกระดับตำนานจากประเทศอังกฤษ
เขาได้รับการขนานนามว่า เดอะฮิวเมนริฟฟ์ สไตล์การเล่นกีตาร์ของเขา ซึ่งเป็นการผสมผสาน
ระหว่างความดิบเถื่อนที่ซับซ้อนและสัญชาตญาณทางดนตรี ที่ได้ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนัก
ดนตรี ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในประวัติศาสตร์เพลงร็อกครับ
คีธ ริชาร์ดส์ เกิดเมื่อ 18 ธันวาคม 1943 ที่เมือง Dartford ในสหราชอาณาจักร
ปัจจุบันอายุ74ปี แต่สังขารและกาลเวลาไม่สามารถหยุดชายผู้นี้ได้ครับเพราะปัจจุบันนี้
เขาก้อยังทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกพร้อมกับวงซึ่งกลายเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจอยู่และยังมี
แฟนคลับทั่วโลก ที่ยังคงกระหายการเสพผลงานของพวกเขาด้วยเพลงฮิตที่มีมากมายและการแสดง
คอนเสิร์ตที่เมามันเกินคำบรรยาย
The Rolling Stones ก่อตั้ง ในปี 1962 โดย Bryan Jones หัวหน้าวง ช่วงแรกๆริชาร์ดส์และ
มิค แจ็กเกอร์ เป็นสองคนที่ร่วมกันเขียนเพลงดังๆขึ้นมาหลายเพลงให้กับวง
ต่อมาความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในวง ทำให้มีสมาชิกย้ายเข้าออก จนในที่สุด ริชาร์ดส์และมิค
แจกเกอร์ซึ่งเป็นนักร้องนำ ก็ได้กลายมาเป็นแกนนำสำคัญของวงแทนที่ของ Bryan Jones
ที่ลาออกไป โดยริชาร์ดส ถือเป็นมือกีตาร์จอมลวดลายคนหนึ่งในวงการเพลงร็อกเขาสร้างสรรค์
ท่อนริฟฟ์ดีๆ ที่น่าประทับใจเอาไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือสำเนียงกีตาร์ fuzz-tone ในเพลง
"(I Can't Get No) Satisfaction"..... และมีคอร์ดอันทรงพลังในเพลง "Start Me Up".....
สไตล์การเล่นกีตาร์ของเขาไม่ซับซ้อนแต่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา มีเสน่ห์เหลือล้น
ไม่แตกต่างจากตัวตนจริงๆ ของเขา
เดอะโรลลิงสโตนส์มีภาพลักษณ์ที่ขัดแย้งกับวงคู่แข่งอย่าง The Beatles 4เต่าทองจากเมือง
ลิเวอร์พูลอย่างเห็นได้ชัดคือ มีภาพลักษณ์เป็นพวกดิบเถื่อน ผมยาวรุงรังและต่อต้านสังคม
ซึ่งเป็นการประกาศจุดยืนอย่างแน่วแน่ว่า ถ้าหาก The Beatles เป็นพระเอก พวกเขาจะเป็นตัวโกง
และหากThe Beatlesเป็นธรรมมะ พวกเขาก้อจะเป็นฝ่ายอธรรมนั่นเอง
แน่นอนว่าพวกเขา เป็นหนึ่งในศิลปินไม่กี่กลุ่ม ที่สามารถสร้างคำนิยามใหม่ให้กับดนตรีสมัยนิยมได้ในตอนที่พวกเขาปรากฏตัวจากลอนดอนในยุค 60s และริชาร์ดส์ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกรุ่นแรกเริ่มของวง และเขาชื่นชอบอเมริกันบลูส์ และอาร์แอนด์บีเป็นพิเศษ
ซึ่งทำให้ดนตรีเหล่านี้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในเพลงของThe Rolling Stonesมาจนถึงปัจจุบัน เขาเป็นเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนซาวน์ดที่เย้ายวนของวง และภายใต้การร่วมมือกับ มิค แจ็กเกอร์ นักร้องนำของวง เขาก็ได้เขียนบทเพลงที่ไพเราะที่สุดในยุคนั้นขึ้นมา ซึ่งรวมถึง
Brown Sugar และ Jumping Jack Flash (ซึ่งเป็นหนึ่งในบทเพลงที่ศิลปินแนวหน้าบ้านเราอย่างพี่เสก และน้าแหลม มอริสัน มักจะนำมาเล่นบนเวทีคอนเสิร์ตอยู่เป็นประจำครับ) นอกเหนือไปจากนั้น ริชาร์ดส์ยังมีอัลบัมเดี่ยวสองอัลบัมคือ
Talk is Cheap และ Main Offender กับวง เอ็กซ์-เพนซีฟของเขาอีกด้วย
ความเปิดเผย ความเชื่อมั่นในตัวเองสูงและความทุ่มเทที่มีให้กับดนตรีที่เขารัก ทำให้เขาได้รับ
การเคารพนับถือ ไม่ใช่แค่จากคนที่โตมากับโรลลิ่ง สโตนส์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแฟนๆ คนรุ่นหลัง
และหนึ่งในนั้นก้อมีพระเอกชื่อดังอย่าง จอห์นนี่ เดปป์ รวมอยู่ด้วย เดปป์เคยกล่าวไว้ว่า
"......เขาเป็นพวกนอกกฎ แต่ก็มีความสง่างามในที เป็นคนที่น่าเกรงกลัว แต่ก็มีความ
อ่อนหวานและความเปราะบาง เป็นร็อคเกอร์ผู้น่าสะพรึง แต่ในขณะเดียวกัน-
ก็เป็นผู้ที่สามารถ ทำหัวใจคุณสลายได้ ด้วยสำเนียงกีต้าร์บัลลาดที่หวานซึ้งจับใจ......"
และนั่น เป็นสาเหตุ ที่จอห์นนี่ เดปป์ อ้างถึงริชาร์ดส์ว่าเป็นแรงบันดาลใจ สำหรับการแสดงในบท
กัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ของเขา จึงทำให้ริชาร์ดส์เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม กับการได้รับบทเป็น
กัปตัน Teague ไปโดยปริยาย
ใช่แล้วครับ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่าคีธ ริชาร์ดส์นั้น นอกจากจะเป็นRockerระดับตำนานแล้ว เขายังมีความสามรถในด้านการแสดงอีกด้วย โดยเขาเคยได้ร่วมแสดงหนังดังอย่าง Pirates of the Caribbean ซึ่งบทบาทที่เขาได้รับในเรื่องคือ กัปตัน Edwards Teage ผู้ซึ่งได้รับการเลือกจากสภาโจรสลัด ให้เป็นผู้คุมกฏของโจรสลัดทั้งหมดทั้งมวล รวมทั้งยังเป็นพ่อของกัปตัน แจ๊ค สแปร์โรว์อีกด้วยครับ
ในเรื่องนี้ หลายท่านอาจจะสับสน ระหว่าง Edwards Teague กับ Edwards Teach เพราะทั้งคู่มีชื่อที่คล้ายคลึงกันครับ เพียงแต่ออกเสียงและตัวสะกดต่างกัน นอกจากนี้บทบาทของทั้งคู่ในเรื่อง ก้อยังมีความสำคัญและทรงอิทธิพลไม่น้อยอีกด้วย ยังไงก็ลองไปหา ติดตามชม
ผลงาน การแสดง ของน้าแกดูก็แล้วกันคร้าปป
อย่างไรก็ดี ริชาร์ดส์ก็ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับโลกภาพยนตร์ เขาเคยโปรดิวซ์ดนตรีให้กับภาพยนตร์คอนเสิร์ตเรื่อง Chuck Berry: Hail! Hail! Rock n Roll ในปี1987 ที่กำกับโดย เทย์เลอร์ แฮ็คฟอร์ด เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบปีที่ 60 ของ ชัค เบอร์รี่ มาแล้ว
และยังมี Gimme Shelter สารคดีเกี่ยวกับการทัวร์รอบอเมริกา ของวงโรลลิ่งสโตนส์ในปี 1969
จากการกำกับของพี่น้องเมย์เซิล ก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นภาพยนตร์ร็อค-
แอนด์โรล ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่ เคยมีการสร้างขึ้นมาอีกด้วย มาร์ติน สกอร์เซซี, ฌอง-ลุค โกดาร์ด และ ฮัล แอชบี้ เป็นส่วนหนึ่งของผู้กำกับที่ เดอะ โรลลิ่งสโตนส์เคยร่วมงานด้วยตลอดอาชีพการทำงานของพวกเขา
แม้ทุกวันนี้ คีธ ริชาร์ดส จะยังคงเป็นมือกีตาร์ร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับเพื่อนๆ สมาชิกวงหินกลิ้งวัยเก๋าไปทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเส้นทางอันรุ่งโรจน์ของเขา ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้เสมอไป
เขาเคยมีด้านมืดอีกด้าน คือการเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับยาเสพติด และหลายต่อหลายครั้ง สิ่งเหล่านั้นก็ได้ครอบงำและทำลายอนาคตของเขา จนชีวิตแทบพัง
แต่ก้อนับว่า เทพีแห่งโชคก็ยังเข้าข้างเสมอ เพราะในท้ายที่สุด เขาก็สามารถดึงตัวเองออกมาจากอบายมุขเหล่านั้นได้ และกลับมารุ่งเรืองบนเส้นทาง Rock n"Roll อีกครั้่ง อย่างสง่าผ่าเผย
นอกจากนี้ ในปี2010 เขายังได้นำเรื่องราวของตัวเองและวง The Rolling Stones มาเขียน เป็นหนังสือขายดี ชื่อว่า Life กับการบอกเล่าถึงชีวิตของร็อกสตาร์ ต้นตำรับของร็อกสตาร์ทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็น มิค, ชาร์ลี, รอนนี่, ไบรอัน, บิลล์ และบ๊อบบี้ กับผงขาวและโคเคน รวมถึงเหล่าฮิปปี้ตัวแม่ ที่ใช้ชีวิตสุดคูล อย่างที่เด็กรุ่นนี้ได้แต่ฝันถึง มันคือการตั้งสายกีตาร์เปิดแบบโอเพ่นจี คือดนตรีบลูส์ เมื่อเพลง มาลากูเอญ่า ดังขึ้นมาแค่สองห้อง คุณก็ต้องมนตร์แล้ว ว่ากันว่านี่คือหนังสือที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ SEX DRUGS &ROCKn'ROLL ซึ่ง คีธ ริชาร์ดส์ เป็นมือกีตาร์ที่มีทั้งเทพและซาตานในตัวเอง ใครสนใจก็ลองหามาอ่านกันได้คร้าปป
เอาหล่ะครับ ก่อนจากกันไปในคลิปนี้ ขอขอบพระคุณที่รับชม หากมีข้อมูลใดขาดตกบกพร่อง หรือผิดพลาดประการใด กระผมต้องกราบขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยขอรับ ซึ่งผมจะพยายามคัดสรรค์เนื้อหาและข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด มาให้เพื่อนๆได้รับชมกันต่อไปครับ หากอยากทราบประวัติของRockstarหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแวดวงดนตรีคนไหน ก้อคอมเม้นไว้ใต้คลิป แนะนำกันเข้ามาได้เลยครับ สำหรับคลิปนี้ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในคลิปหน้า สวัสดีคร้าปปป
Thaiges..
เขาได้รับการขนานนามว่า เดอะฮิวเมนริฟฟ์ สไตล์การเล่นกีตาร์ของเขา ซึ่งเป็นการผสมผสาน
ระหว่างความดิบเถื่อนที่ซับซ้อนและสัญชาตญาณทางดนตรี ที่ได้ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนัก
ดนตรี ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในประวัติศาสตร์เพลงร็อกครับ
คีธ ริชาร์ดส์ เกิดเมื่อ 18 ธันวาคม 1943 ที่เมือง Dartford ในสหราชอาณาจักร
ปัจจุบันอายุ74ปี แต่สังขารและกาลเวลาไม่สามารถหยุดชายผู้นี้ได้ครับเพราะปัจจุบันนี้
เขาก้อยังทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกพร้อมกับวงซึ่งกลายเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจอยู่และยังมี
แฟนคลับทั่วโลก ที่ยังคงกระหายการเสพผลงานของพวกเขาด้วยเพลงฮิตที่มีมากมายและการแสดง
คอนเสิร์ตที่เมามันเกินคำบรรยาย
The Rolling Stones ก่อตั้ง ในปี 1962 โดย Bryan Jones หัวหน้าวง ช่วงแรกๆริชาร์ดส์และ
มิค แจ็กเกอร์ เป็นสองคนที่ร่วมกันเขียนเพลงดังๆขึ้นมาหลายเพลงให้กับวง
ต่อมาความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในวง ทำให้มีสมาชิกย้ายเข้าออก จนในที่สุด ริชาร์ดส์และมิค
แจกเกอร์ซึ่งเป็นนักร้องนำ ก็ได้กลายมาเป็นแกนนำสำคัญของวงแทนที่ของ Bryan Jones
ที่ลาออกไป โดยริชาร์ดส ถือเป็นมือกีตาร์จอมลวดลายคนหนึ่งในวงการเพลงร็อกเขาสร้างสรรค์
ท่อนริฟฟ์ดีๆ ที่น่าประทับใจเอาไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือสำเนียงกีตาร์ fuzz-tone ในเพลง
"(I Can't Get No) Satisfaction"..... และมีคอร์ดอันทรงพลังในเพลง "Start Me Up".....
สไตล์การเล่นกีตาร์ของเขาไม่ซับซ้อนแต่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา มีเสน่ห์เหลือล้น
ไม่แตกต่างจากตัวตนจริงๆ ของเขา
เดอะโรลลิงสโตนส์มีภาพลักษณ์ที่ขัดแย้งกับวงคู่แข่งอย่าง The Beatles 4เต่าทองจากเมือง
ลิเวอร์พูลอย่างเห็นได้ชัดคือ มีภาพลักษณ์เป็นพวกดิบเถื่อน ผมยาวรุงรังและต่อต้านสังคม
ซึ่งเป็นการประกาศจุดยืนอย่างแน่วแน่ว่า ถ้าหาก The Beatles เป็นพระเอก พวกเขาจะเป็นตัวโกง
และหากThe Beatlesเป็นธรรมมะ พวกเขาก้อจะเป็นฝ่ายอธรรมนั่นเอง
แน่นอนว่าพวกเขา เป็นหนึ่งในศิลปินไม่กี่กลุ่ม ที่สามารถสร้างคำนิยามใหม่ให้กับดนตรีสมัยนิยมได้ในตอนที่พวกเขาปรากฏตัวจากลอนดอนในยุค 60s และริชาร์ดส์ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกรุ่นแรกเริ่มของวง และเขาชื่นชอบอเมริกันบลูส์ และอาร์แอนด์บีเป็นพิเศษ
ซึ่งทำให้ดนตรีเหล่านี้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในเพลงของThe Rolling Stonesมาจนถึงปัจจุบัน เขาเป็นเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนซาวน์ดที่เย้ายวนของวง และภายใต้การร่วมมือกับ มิค แจ็กเกอร์ นักร้องนำของวง เขาก็ได้เขียนบทเพลงที่ไพเราะที่สุดในยุคนั้นขึ้นมา ซึ่งรวมถึง
Brown Sugar และ Jumping Jack Flash (ซึ่งเป็นหนึ่งในบทเพลงที่ศิลปินแนวหน้าบ้านเราอย่างพี่เสก และน้าแหลม มอริสัน มักจะนำมาเล่นบนเวทีคอนเสิร์ตอยู่เป็นประจำครับ) นอกเหนือไปจากนั้น ริชาร์ดส์ยังมีอัลบัมเดี่ยวสองอัลบัมคือ
Talk is Cheap และ Main Offender กับวง เอ็กซ์-เพนซีฟของเขาอีกด้วย
ความเปิดเผย ความเชื่อมั่นในตัวเองสูงและความทุ่มเทที่มีให้กับดนตรีที่เขารัก ทำให้เขาได้รับ
การเคารพนับถือ ไม่ใช่แค่จากคนที่โตมากับโรลลิ่ง สโตนส์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแฟนๆ คนรุ่นหลัง
และหนึ่งในนั้นก้อมีพระเอกชื่อดังอย่าง จอห์นนี่ เดปป์ รวมอยู่ด้วย เดปป์เคยกล่าวไว้ว่า
"......เขาเป็นพวกนอกกฎ แต่ก็มีความสง่างามในที เป็นคนที่น่าเกรงกลัว แต่ก็มีความ
อ่อนหวานและความเปราะบาง เป็นร็อคเกอร์ผู้น่าสะพรึง แต่ในขณะเดียวกัน-
ก็เป็นผู้ที่สามารถ ทำหัวใจคุณสลายได้ ด้วยสำเนียงกีต้าร์บัลลาดที่หวานซึ้งจับใจ......"
และนั่น เป็นสาเหตุ ที่จอห์นนี่ เดปป์ อ้างถึงริชาร์ดส์ว่าเป็นแรงบันดาลใจ สำหรับการแสดงในบท
กัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ของเขา จึงทำให้ริชาร์ดส์เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม กับการได้รับบทเป็น
กัปตัน Teague ไปโดยปริยาย
ใช่แล้วครับ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่าคีธ ริชาร์ดส์นั้น นอกจากจะเป็นRockerระดับตำนานแล้ว เขายังมีความสามรถในด้านการแสดงอีกด้วย โดยเขาเคยได้ร่วมแสดงหนังดังอย่าง Pirates of the Caribbean ซึ่งบทบาทที่เขาได้รับในเรื่องคือ กัปตัน Edwards Teage ผู้ซึ่งได้รับการเลือกจากสภาโจรสลัด ให้เป็นผู้คุมกฏของโจรสลัดทั้งหมดทั้งมวล รวมทั้งยังเป็นพ่อของกัปตัน แจ๊ค สแปร์โรว์อีกด้วยครับ
ในเรื่องนี้ หลายท่านอาจจะสับสน ระหว่าง Edwards Teague กับ Edwards Teach เพราะทั้งคู่มีชื่อที่คล้ายคลึงกันครับ เพียงแต่ออกเสียงและตัวสะกดต่างกัน นอกจากนี้บทบาทของทั้งคู่ในเรื่อง ก้อยังมีความสำคัญและทรงอิทธิพลไม่น้อยอีกด้วย ยังไงก็ลองไปหา ติดตามชม
ผลงาน การแสดง ของน้าแกดูก็แล้วกันคร้าปป
อย่างไรก็ดี ริชาร์ดส์ก็ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับโลกภาพยนตร์ เขาเคยโปรดิวซ์ดนตรีให้กับภาพยนตร์คอนเสิร์ตเรื่อง Chuck Berry: Hail! Hail! Rock n Roll ในปี1987 ที่กำกับโดย เทย์เลอร์ แฮ็คฟอร์ด เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบปีที่ 60 ของ ชัค เบอร์รี่ มาแล้ว
และยังมี Gimme Shelter สารคดีเกี่ยวกับการทัวร์รอบอเมริกา ของวงโรลลิ่งสโตนส์ในปี 1969
จากการกำกับของพี่น้องเมย์เซิล ก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นภาพยนตร์ร็อค-
แอนด์โรล ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่ เคยมีการสร้างขึ้นมาอีกด้วย มาร์ติน สกอร์เซซี, ฌอง-ลุค โกดาร์ด และ ฮัล แอชบี้ เป็นส่วนหนึ่งของผู้กำกับที่ เดอะ โรลลิ่งสโตนส์เคยร่วมงานด้วยตลอดอาชีพการทำงานของพวกเขา
แม้ทุกวันนี้ คีธ ริชาร์ดส จะยังคงเป็นมือกีตาร์ร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับเพื่อนๆ สมาชิกวงหินกลิ้งวัยเก๋าไปทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเส้นทางอันรุ่งโรจน์ของเขา ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้เสมอไป
เขาเคยมีด้านมืดอีกด้าน คือการเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับยาเสพติด และหลายต่อหลายครั้ง สิ่งเหล่านั้นก็ได้ครอบงำและทำลายอนาคตของเขา จนชีวิตแทบพัง
แต่ก้อนับว่า เทพีแห่งโชคก็ยังเข้าข้างเสมอ เพราะในท้ายที่สุด เขาก็สามารถดึงตัวเองออกมาจากอบายมุขเหล่านั้นได้ และกลับมารุ่งเรืองบนเส้นทาง Rock n"Roll อีกครั้่ง อย่างสง่าผ่าเผย
นอกจากนี้ ในปี2010 เขายังได้นำเรื่องราวของตัวเองและวง The Rolling Stones มาเขียน เป็นหนังสือขายดี ชื่อว่า Life กับการบอกเล่าถึงชีวิตของร็อกสตาร์ ต้นตำรับของร็อกสตาร์ทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็น มิค, ชาร์ลี, รอนนี่, ไบรอัน, บิลล์ และบ๊อบบี้ กับผงขาวและโคเคน รวมถึงเหล่าฮิปปี้ตัวแม่ ที่ใช้ชีวิตสุดคูล อย่างที่เด็กรุ่นนี้ได้แต่ฝันถึง มันคือการตั้งสายกีตาร์เปิดแบบโอเพ่นจี คือดนตรีบลูส์ เมื่อเพลง มาลากูเอญ่า ดังขึ้นมาแค่สองห้อง คุณก็ต้องมนตร์แล้ว ว่ากันว่านี่คือหนังสือที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ SEX DRUGS &ROCKn'ROLL ซึ่ง คีธ ริชาร์ดส์ เป็นมือกีตาร์ที่มีทั้งเทพและซาตานในตัวเอง ใครสนใจก็ลองหามาอ่านกันได้คร้าปป
เอาหล่ะครับ ก่อนจากกันไปในคลิปนี้ ขอขอบพระคุณที่รับชม หากมีข้อมูลใดขาดตกบกพร่อง หรือผิดพลาดประการใด กระผมต้องกราบขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยขอรับ ซึ่งผมจะพยายามคัดสรรค์เนื้อหาและข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด มาให้เพื่อนๆได้รับชมกันต่อไปครับ หากอยากทราบประวัติของRockstarหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแวดวงดนตรีคนไหน ก้อคอมเม้นไว้ใต้คลิป แนะนำกันเข้ามาได้เลยครับ สำหรับคลิปนี้ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในคลิปหน้า สวัสดีคร้าปปป
Thaiges..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น